เคยสงสัยไหมว่า…จะรู้ได้ยังไงว่า “ถึงเวลาหยุดเครื่องแล้ว”?
ในกระบวนการผลิตแกรนูล ไม่ว่าจะเป็นยา อาหารเสริม หรือแม้แต่ผลิตภัณฑ์เคมี การรู้ว่า “เมื่อไหร่ควรหยุดผสม” เป็นเรื่องที่สำคัญมากกว่าที่หลายคนคิด เพราะถ้าหยุดไม่ตรงจังหวะ คุณภาพของแกรนูลจะเปลี่ยนทันที
- หยุดเร็วไป แกรนูลยังไม่จับตัว ร่วน แตกง่าย
- หยุดช้าไป แกรนูลแน่นเกิน ไหลตัวไม่ดี บางครั้งต้องคัดทิ้งทั้ง Batch
นี่คือปัญหา Under-mixing และ Over-mixing ที่หลายโรงงานต้องเจอซ้ำๆ และแก้กันไม่ตก
End-Point คืออะไร แล้วทำไมถึงสำคัญ?

End-Point คือ “จุดที่เหมาะสมที่สุด” ในการหยุดการผสม
หรือพูดง่ายๆ คือช่วงเวลาที่แกรนูล “ได้ที่” แล้วนั่นเอง
การหา End-Point ที่แม่นยำ จะช่วยให้:
- แกรนูลจับตัวได้ดี สม่ำเสมอ
- ลดของเสียจากการผสมเกินหรือน้อยไป
- ทำให้กระบวนการ Downstream (เช่น การอบแห้งหรืออัดเม็ด) ทำงานได้ราบรื่นขึ้น
โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยา ที่คุณภาพของเม็ดยาไม่สามารถพลาดได้เลย End-Point กลายเป็น “จุดคุมคุณภาพ” ที่ไม่ควรมองข้าม
ปัญหาคลาสสิก: หยุดเครื่องด้วยการคาดเดา

โรงงานจำนวนมากยังใช้การ “ตั้งเวลาผสมล่วงหน้า” เป็นตัวกำหนด End-Point
หรือบางที่ใช้ “สายตาคน” เปิดฝาถังดู แล้วตัดสินว่าควรหยุดหรือยัง
วิธีเหล่านี้มีข้อเสียหลายอย่าง:
- แต่ละ batch ใช้เวลาต่างกันจริง เพราะปัจจัยภายนอกเช่นอุณหภูมิ ความชื้น หรือความละเอียดของผงแตกต่างกัน
- ความรู้สึกของพนักงานไม่เหมือนกัน ทำให้คุณภาพแต่ละรอบไม่คงที่
- ไม่สามารถทวนสอบย้อนหลังได้ หากเกิดปัญหา
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า “ถึงเวลา” แล้ว?

คำตอบคือ End-Point Detection System
ระบบที่ใช้ “ตัวเลข” ไม่ใช่ “ความรู้สึก” ในการบอกว่าควรหยุดเมื่อไหร่
ระบบนี้จะใช้ค่าที่วัดได้จริงจากเครื่องผสม เช่น:
Torque (แรงบิด)
เมื่อผงเริ่มจับตัว ความหนืดของมวลจะเพิ่มขึ้น → ใบพัดต้องออกแรงมากขึ้น → ค่า Torque จะเพิ่ม
การวัด Torque แบบ Real-Time จะช่วยให้รู้ทันทีว่าแกรนูลกำลังเข้าสู่ช่วงจับตัว
Power (พลังงาน)
การผสมผงที่เปียกและเริ่มจับตัว ต้องใช้พลังงานมากขึ้น → ค่าไฟฟ้าที่ใช้จะเพิ่มขึ้นตาม
พลังงานสะท้อนความ “เหนียว” ของมวลผสมได้อย่างแม่นยำ
Time (เวลา)
เมื่อรวม Torque และ Power เข้ากับเวลา จะได้ “ลายเซ็น” ของแต่ละสูตร
ทำให้สามารถคุมการผสมให้ได้ผลลัพธ์เดิมซ้ำๆ ทุก batch
ข้อดีของระบบ End-Point Detection

1. แกรนูลคุณภาพสม่ำเสมอ
ไม่ว่าจะเป็นแกรนูลยา หรือแกรนูลสำหรับอาหาร ระบบจะช่วยให้เนื้อแกรนูลไม่แตกต่างจาก batch ก่อนหน้า ลดความเสี่ยงที่ผลิตภัณฑ์ไม่ผ่าน QC
2. ลดต้นทุน
หยุดเครื่องทันทีที่แกรนูล “ได้ที่” หมายถึง:
- ไม่เสียพลังงานเกินความจำเป็น
- ไม่ใช้ Binder มากเกิน
- ไม่ต้องทิ้งแกรนูลเสียจาก Over-mixing
3. รองรับการตรวจสอบย้อนกลับ (Compliance)
ระบบที่เก็บข้อมูลไว้ครบ ทำให้สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ทันที รองรับมาตรฐาน GMP และ 21CFR Part 11
4. ลดการพึ่งพาคน
ไม่ต้องอาศัยพนักงานที่ “มีประสบการณ์” อย่างเดียว เพราะระบบจะช่วยบอกเองว่าถึงจุดที่ควรหยุดแล้ว
แล้วเครื่องแบบไหนที่มี End-Point Detection ดีจริง?

หนึ่งในเครื่องที่ตอบโจทย์นี้อย่างแท้จริง คือ Gansons High Shear Mixer Granulator (HSMG)
เครื่องนี้ถูกออกแบบมาให้ “หยุดได้แม่น หยุดได้จริง” โดยใช้ระบบวัด:
- Torque
- Power
- Time
- พร้อมแสดงผลผ่านหน้าจอ Touchscreen (HMI) ใช้งานง่าย
จุดเด่นของ HSMG:
- มอเตอร์แบบ Bevel Helical Gear ที่ทนทานแม้ใช้งานหนัก
- ระบบ IPC/PLC Control พร้อมสูตรอัตโนมัติ
- รองรับ SCADA เชื่อมต่อกับระบบอื่น
- มีระบบทำความสะอาด WIP
- พร้อมเอกสาร IQ/OQ/PQ สำหรับการ Validate ระบบตามมาตรฐานโรงงาน
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
www.gansons.com
Granulation Suite PDF
สรุป: “รู้จักหยุด” คือหัวใจของการควบคุมคุณภาพแกรนูล
ในยุคที่ทุกวินาทีของสายการผลิตมีมูลค่า
การพึ่งพาคนดู การตั้งเวลาเฉยๆ หรือการเปิดฝาดูแกรนูลไม่ใช่วิธีที่ยั่งยืนอีกต่อไป
เพราะแกรนูลที่ดี… ไม่ได้เกิดจาก “การผสมให้นานที่สุด”
แต่เกิดจาก “การหยุดให้ถูกจังหวะ”
ด้วยระบบ End-Point Detection ของ Gansons:
- คุณจะได้แกรนูลที่เหมาะสมทุก batch
- ลดความเสี่ยงจากของเสีย
- เพิ่มประสิทธิภาพให้ทั้งไลน์การผลิต
- รองรับการขยายกำลังผลิตในอนาคต